วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2557

การแต่งตัวอักษร

การแต่งตัวอักษร


การกำหนดแบบอักษร
รูปแบบแท็ก Code  คือ  

<font face="fontที่ต้องการจะใช้">ข้อความที่ต้องการให้ปรากฏ</font>  


เช่น  <font face="angsana upc">ข้อความ</font>    

         <font face="AaSansOutline">TEXT</font>       

        <font face="Lucida Handwriting">I  LOVE  YOU</font>





ขนาดตัวอักษร 
รูปแบบแท็ก Code  คือ  
<font size="ตัวเลขของขนาด">ข้อความที่ต้องการให้ปรากฏ</font>  


เช่น  <font size="7">ขนาดตัวอักษร</font>    

        <font size="5">ขนาดตัวอักษร</font>    

        <font size="3">ขนาดตัวอักษร</font>    
 

สีตัวอักษร


รูปแบบแท็ก Code  คือ  

<font color = "ระบุสีที่ต้องการ">ข้อความที่ต้องการให้ปรากฏ</font>  
หรืออีกหนึ่งแบบคือ   
<font color = "โค้ดสีที่ต้องการ">ข้อความที่ต้องการให้ปรากฏ</font> 
   
เช่น    <font color="Red">สีแดง</font>                

         <font color="Yellow">สีเหลือง</font> 

         <font color="Green">สีเขียว</font>   
                           

   
ตัวเอียง  ตัวหนา  ขีดเส้นใต้
รูปแบบแท็ก Code  คือ  
ตัวเอียง      <I>ข้อความที่ต้องการให้ปรากฏ</I>
ตัวหนา       <B>ข้อความที่ต้องการให้ปรากฏ</B>
ขีดเส้นใต้   <U>ข้อความที่ต้องการให้ปรากฏ</U>

เช่น   <I>ตัวเอียง Itallc</I>                           
         <B>ตัวหนา Bold</B>                      
         <U>ขีดเส้นใต้ Underline</U>  
 
     




             
ตัวขีดฆ่า  ตัวยก  ตัวห้อย
รูปแบบแท็ก Code  คือ  
ตัวขีดฆ่า    <del> ข้อความที่ต้องการขีดฆ่า </del>                                     
ตัวยก        <sup> ข้อความหรือตัวเลข<sup>ข้อความหรือตัวเลขที่ต้องการยก</sup>  ตัวห้อย      <sub> ตัวอักษร,ตัวเลข,ข้อความ<sub>ตัวอักษร,ตัวเลขที่ต้องการห้อย</sub>


เช่น    <del> ตัวอักษรขีดฆ่า  </del>                                                                              
          <sup> ตัวยก       4<sup>2</sup> , 5<sup>3</sup>                        
          <sub> ตัวห้อย    H<sub>2</sub>O  ,  CH<sub>3</sub>COOH    






ตัวอักษรวิ่ง  ตัวอักษรกระพริบ

รูปแบบแท็ก Code  คือ  
ตัวอักษรวิ่ง            <Marquee>ตัวอักษรหรือข้อความที่ต้องการให้วิ่ง</Marquee>
ตัวอักษรกระพริบ   <Blink>ตัวอักษรหรือข้อความที่ต้องการให้กระพริบ</Blink>

เช่น    <Marquee>...ตัวอักษรวิ่ง...</Marquee>           
          <Blink>...ตัวอักษรกระพริบ...</Blink>  

         


การจัดตำแหน่งข้อความ
รูปแบบแท็ก Code  คือ  
การจัดย่อหน้าแบบชิดซ้าย    <P Align=Left>ข้อความที่ต้องการจัดตำแหน่ง/P>

การจัดย่อหน้าแบบกึ่งกลาง  <P Align=center>ข้อความที่ต้องการจัดตำแหน่ง</P>

การจัดย่อหน้าแบบชิดขวา   <P Align=Right>ข้อความที่ต้องการจัดตำแหน่ง</P>


เช่น   <P Align=Left>ชิดซ้าย</P>
        <P Align=center>กึ่งกลาง</P>
        <P Align=Right>ชิดขวา</P>


แหล่งที่มา

HTML TAG พื้นฐาน

HTML TAG พื้นฐาน

HTML
ย่อมาจากคำว่า HyperText Markup Language เป็นภาษาหลักในการสร้างเว็บเพจ โดยมีแนวคิดจากการสร้างเอกสารไฮเปอร์เท็กซ์ ซึ่งพัฒนามาจากภาษา SGML (Standard Generalized Markup Language) โดย Tim Berners-Lee ใน ปี ค.ศ.1990 ซึ่งใช้ในระบบของ CERN (Conseil Europeen pour la Recherche Nucleaire) เบื้องต้นได้เริ่ม ใช้ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จากนั้นก็ได้แพร่ขยายออกไป ระบบนี้ได้ถูกตั้งชื่อว่า World Wide Web ( WWW) ที่เรารู้จักกันมาจนถึงปัจจุบัน

Text Editor
คือ โปรแกรมที่ใช้สำหรับสร้างและแก้ไขข้อความในการสร้างเว็บเพจด้วยภาษา HTML นั้นต้องมีเครื่องมือ ที่ใช้ในการเขียน และแก้ไขตัวอักษรซึ่งเป็นคำสั่งต่าง ๆ ปัจจุบันมี โปรแกรม Text Editor หลายโปรแกรม เช่น NotePad, EditPlus หรือโปรแกรม Dreamweaver ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นทั้งโปรแกร สำเร็จรูปในการสร้างเว็บเพจด้วย ในบทเรียนชุดนี้ จะใช้โปรแกรม Notepad ในการสร้างเว็บเพจด้วยภาษา HTML


โครงสร้างหลักของภาษา HTML
ในไฟล์เอกสาร HTML ประกอบด้วย สองส่วนใหญ่ๆ คือ
ส่วนหัว HEAD และ ส่วนตัว BODY

1.Tag <HTML> และ <HTML> จะอยู่บรรทัดแรก และ บรรทัดสุดท้าย ในไฟล์ HTML เสมอ เป็น Tag ที่บอกให้รู้ว่า ข้อความ หรือ Tag ที่อยู่ระหว่าง 2 Tag นี้ เป็นแบบ HTML ซึ่งต่อไปในบทความจะขอเรียกว่า "Tag <HTML>"
2.Tag <HEAD> และ </HEAD> ส่วนนี้จะไว้ใส่ รายละเอียดต่าง ๆ เช่น Tag <TITLE>TodayLoad.com</TITLE>  ไว้ใส่ข้อความที่ต้องการให้ปรากฎอยู่บน ไตเติ้ลบาร์ เป็นต้น ซึ่งต่อไปในบทความจะขอเรียกว่า "Tag <HEAD>"
3.<BODY ....... > ข้อความที่ปรากฎอยู่ตรงช่วงไข่ปลา เรียกว่า "แอตทริบิวต์ ของ Tag <BODY>"
4.Tag <BODY> และ </BODY> ข้อความ หรือ Tag ที่อยู่ระหว่าง 2 Tag นี้ เป็นส่วนของเนื้อหาซึ่งต่อไปในบทความจะขอเรียกว่า "Tag <BODY>"
  

แหล่งที่มา